admin

เชื่อว่าหลายคนมีคำถามนี้อยู่ในใจแน่นอน… “ต้องขอล่วงหน้ากี่วันดี?” “วีซ่าบางประเทศออกไว บางประเทศรอนาน แล้วเราควรเริ่มตอนไหน?” เพราะ การขอวีซ่าคือหัวใจสำคัญของการเดินทาง  ถ้าทำช้าเกินไป เท่ากับเสี่ยงตั๋วเครื่องบินหลุด ที่พักหลุด หรือแผนเที่ยวพังได้ง่ายๆ 😥 วันนี้ Co Journey Visa จะมาแนะนำให้แบบง่ายๆ ว่า คุณควรยื่นวีซ่าล่วงหน้า “กี่วัน” เพื่อให้สบายใจ ไม่ต้องลุ้น ไม่ต้องเร่ง! ตารางแนะนำระยะเวลาการยื่นวีซ่าล่วงหน้า (โดยประมาณ) ประเทศ เวลาที่ควรยื่นล่วงหน้า ระยะเวลาดำเนินการปกติ สหรัฐอเมริกา 45-60 วัน 14-30 วัน (รวมคิวสัมภาษณ์) อังกฤษ 30-45 วัน 15-30 วัน ออสเตรเลีย 30-60 วัน 15-40 วัน แคนาดา 45-60 วัน 30-45 วัน ญี่ปุ่น 15-30 วัน 5-10 วัน เกาหลีใต้

เมื่อวีซ่าใกล้หมดอายุ หรือเพิ่งหมดไป หลายคนอาจสับสนว่า “ควรต่อวีซ่าดี หรือยื่นใหม่เลยดีกว่า?” เพราะแต่ละทางก็มีข้อดี-ข้อเสียต่างกัน แล้วแบบไหนกันแน่ที่ “คุ้มกว่า ปลอดภัยกว่า และผ่านง่ายกว่า?” วันนี้ Co Journey Visa จะพาไขข้อสงสัย พร้อมแนะแนวทางแบบมืออาชีพ! ต่อวีซ่าคืออะไร? การ “ต่อวีซ่า” (Visa Extension) คือการขออยู่ต่อในประเทศนั้นๆ โดยไม่ออกจากประเทศ มักใช้ในกรณีที่คุณยังอยู่ในต่างประเทศอยู่ เช่น ต้องการอยู่ต่อเพื่อเรียน/ทำงาน/ท่องเที่ยวเพิ่มเติม ✅ ข้อดี ไม่ต้องเดินทางกลับมาขอที่ไทย   สะดวก รวดเร็ว (บางประเทศสามารถทำออนไลน์ได้)   ❌ ข้อควรระวัง ต้องมีเหตุผลที่ชัดเจน เช่น เรียนยังไม่จบ เจ็บป่วย มีเหตุจำเป็น   เอกสารอาจเข้มงวดกว่ายื่นใหม่   บางประเทศ อาจไม่อนุญาตให้ต่อวีซ่า และต้องออกนอกประเทศก่อน   ยื่นวีซ่าใหม่คืออะไร? การ “ยื่นใหม่” คือการยื่นขอวีซ่าอีกครั้งจากประเทศไทย (หรือประเทศต้นทาง) ไม่ว่าจะเคยมีวีซ่ามาก่อนหรือไม่ก็ตาม ✅

🛑 วีซ่าหมดอายุทำอย่างไร? อย่าตกใจ! มาดูวิธีแก้แบบมืออาชีพกัน วีซ่าหมดอายุ…แค่ได้ยินก็คงรู้สึกตื่นตระหนกใช่ไหมครับ?แต่จริงๆ แล้ว ถ้ารู้วิธีจัดการ ไม่ต้องกลัวเลย เพราะทุกปัญหามีทางออกเสมอและที่สำคัญ…ยิ่งรู้ไว ยิ่งมีโอกาส “แก้ทัน”! ก่อนอื่น: เช็กก่อนว่า “หมดอายุแบบไหน?” หมดอายุก่อนเดินทาง ยังไม่บินไปต่างประเทศ แต่พบว่าวีซ่าหมดอายุแล้ว กรณีนี้ไม่ต้องกังวล แค่ยื่นขอใหม่ตามปกติ แต่ต้องเตรียมเอกสารใหม่ให้ครบถ้วน   หมดอายุขณะอยู่ต่างประเทศ เคสนี้ต้องรีบดูว่า “เกินกำหนดหรือยัง”   หากเลยวันหมดอายุ แม้เพียง 1 วัน อาจถือเป็นการอยู่เกินวีซ่า (Overstay)   แล้วแต่ประเทศ บางแห่งมีโทษปรับ บางแห่งมีโทษแบนกลับเข้าประเทศอีกหลายปี   ⚠️ ผลกระทบถ้าอยู่เกินวีซ่า อาจถูกปรับเงิน   อาจถูกส่งตัวกลับทันที   ชื่ออาจถูกบันทึกในระบบ และส่งผลต่อการขอวีซ่าในอนาคต   มีโอกาสถูกปฏิเสธวีซ่าครั้งหน้า แม้จะเป็นประเทศอื่น   ดังนั้นห้ามอยู่เกินเด็ดขาด! ถ้าไม่แน่ใจ ให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทันที ✅ แล้วควรทำยังไง? กรณีอยู่ไทย: ให้ตรวจสอบวันหมดอายุของวีซ่าทุกครั้ง

🗂 วิธีเตรียมเอกสารขอวีซ่าแบบมืออาชีพ เตรียมยังไงให้เป๊ะ! ยื่นแล้วผ่านง่าย ไม่ต้องลุ้นหลายรอบ การขอวีซ่าไปต่างประเทศ ไม่ใช่แค่มีตั๋วเครื่องบินกับแพลนท่องเที่ยวก็พอ เพราะหัวใจสำคัญคือ “เอกสาร” ที่จะพิสูจน์ตัวตน ความน่าเชื่อถือ และความพร้อมในการเดินทาง ✨ยิ่งเอกสารครบ-ชัดเจน-เป็นระเบียบ โอกาสผ่านก็ยิ่งสูง! แต่… หลายคนยังไม่รู้ว่า “ต้องเตรียมอะไรบ้าง” หรือเตรียมแล้วแต่ไม่ถูกต้อง จนทำให้วีซ่า “โดนปฏิเสธ” วันนี้ Co Journey Visa จะพาทุกคนไปรู้ เทคนิคเตรียมเอกสารแบบมืออาชีพ ที่เจ้าหน้าที่สถานทูตเห็นแล้วต้องร้องว้าว! ✅ 7 ขั้นตอนการเตรียมเอกสารขอวีซ่าแบบมืออาชีพ 1. เริ่มจากเช็กประเภทวีซ่าก่อน ก่อนจะรวบรวมเอกสาร ต้องรู้ก่อนว่าเรากำลังขอวีซ่าแบบไหน เช่น: วีซ่าท่องเที่ยว   วีซ่าเรียน   วีซ่าทำงาน   วีซ่าคู่สมรส ฯลฯ แต่ละแบบใช้เอกสารต่างกันเล็กน้อย ห้ามส่งผิดเด็ดขาด!   2. เอกสารส่วนตัวต้องครบและตรงกัน สำเนาหนังสือเดินทาง (Passport) พร้อมลายเซ็น   สำเนาบัตรประชาชน / ทะเบียนบ้าน

✅ ประโยชน์ของการมีผู้ช่วยยื่นวีซ่า ยื่นผ่านง่าย ไม่ต้องกังวลกับความยุ่งยากอีกต่อไป! หลายคนคงเคยเจอกับคำถามเหล่านี้… เอกสารต้องใช้อะไรบ้าง?   ต้องกรอกฟอร์มยังไงให้ถูกต้อง?   ถ้าตอบคำถามสัมภาษณ์ผิดจะเป็นอะไรไหม?   ขอวีซ่าไม่ผ่าน แก้ได้ไหม?   🤯 บอกเลยว่า “การยื่นวีซ่า” ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะถ้าพลาดแม้แต่นิดเดียว อาจถูกปฏิเสธวีซ่าได้ทันที! ดังนั้น “การมีผู้ช่วยยื่นวีซ่า” ที่มีประสบการณ์และเข้าใจระบบอย่างลึกซึ้ง จึงกลายเป็นตัวช่วยสำคัญ ที่จะทำให้คุณมีโอกาสผ่านสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ! 7 ประโยชน์ของการมีผู้ช่วยยื่นวีซ่า Co Journey Visa 1. ลดโอกาสโดนปฏิเสธ เรามีความรู้เชิงลึกว่าต้องเตรียมอะไร และต้องจัดเรียงเอกสารอย่างไร เพื่อตอบโจทย์ที่เจ้าหน้าที่ต้องการ → เพิ่มโอกาสผ่านตั้งแต่รอบแรก! 2. ช่วยประเมินความพร้อมล่วงหน้า ก่อนยื่น เราจะประเมินว่าคุณมีจุดแข็ง-จุดอ่อนตรงไหน และจะวางแผนให้เอกสารของคุณ “น่าเชื่อถือที่สุด” 3. ไม่ต้องเสียเวลาเรียนรู้เอง ไม่ต้องเปิดหาข้อมูลเป็นสิบเว็บ ไม่ต้องงงกับแบบฟอร์มยาวๆ → เราจัดการให้ครบ ตั้งแต่ต้นจนจบ 4. มีแผนรองรับ หากเคยถูกปฏิเสธมาก่อน เคยขอวีซ่าไม่ผ่านใช่ไหม? เรามีวิธีช่วยอธิบายและทำให้ประวัติเคลียร์

❌ ทำไมวีซ่าถึงถูกปฏิเสธ? รวม 10 เหตุผลหลัก ที่อาจทำให้วีซ่าคุณไม่ผ่าน!  อย่าให้ความฝันในการบินข้ามประเทศต้องพัง เพราะแค่ “พลาดเรื่องเล็กๆ” ป้องกันทุกความเสี่ยง ด้วยการเตรียมตัวแบบมืออาชีพกับ Co Journey Visa 💼 หลายคนอาจคิดว่า… “แค่กรอกแบบฟอร์ม ส่งเอกสาร จบ!” แต่ในความจริง การยื่นวีซ่าเต็มไปด้วยรายละเอียดเล็กๆ ที่อาจกลายเป็นเหตุผลใหญ่ และกลายเป็น “คำว่าโดนปฏิเสธ” บนหน้าวีซ่า 🥲 วันนี้ Co Journey Visa ขอรวม 10 เหตุผลยอดฮิตที่วีซ่าถูกปฏิเสธ อ่านแล้วจะได้หลีกเลี่ยง และเตรียมตัวให้เป๊ะทุกจุด! 10 เหตุผลที่วีซ่าถูกปฏิเสธบ่อยที่สุด 1. เอกสารไม่ครบ หรือไม่ตรงตามข้อกำหนด ตัวอย่าง: หลายคนส่ง bank statement ไม่ครบเดือน หรือจดหมายรับรองไม่ตรงกับแบบฟอร์มของสถานทูต 2. หลักฐานการเงินไม่น่าเชื่อถือ เช่น บัญชีไม่มีความเคลื่อนไหว มีเงินเข้าปุ๊บแล้วรีบขอวีซ่าทันที → ดูไม่สมเหตุสมผล 3. ไม่มีเหตุผลเพียงพอในการเดินทาง

อยากบินให้ไว วางแผนเรื่องเงินให้เป๊ะ! Co Journey Visa ช่วยคุณวางแผนทั้งเอกสาร และงบประมาณ  ก่อนจะวางแผนบินไปเที่ยว เรียนต่อ หรือทำงานที่ต่างประเทศ “ค่าธรรมเนียมการยื่นวีซ่า” คือสิ่งสำคัญที่ต้องรู้ไว้ล่วงหน้า! บางประเทศราคาหลักพัน แต่บางประเทศอาจมีค่าใช้จ่ายแฝงที่คุณอาจยังไม่รู้ วันนี้ Co Journey Visa สรุปราคายื่นวีซ่าประเทศยอดนิยมในปี 2025 พร้อมแนะแนวทางวางแผนค่าใช้จ่ายแบบไม่บานปลาย! 🌏 สรุปค่าใช้จ่ายวีซ่าในปี 2025 (โดยประมาณ) 🌐 ประเทศ 💼 วีซ่าประเภท 💰 ค่าธรรมเนียมยื่นวีซ่า (บาท) 🇯🇵 ญี่ปุ่น ท่องเที่ยว / เยี่ยมญาติ ฟรี (ถึง ธ.ค. 2025) สำหรับคนไทย 🇰🇷 เกาหลีใต้ K-ETA หรือ วีซ่าท่องเที่ยว 800 – 2,000 (ขึ้นกับประเภทและรอบ) 🇬🇧 อังกฤษ วีซ่าท่องเที่ยว ~4,300

ในยุคที่การเดินทางไปต่างประเทศไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ไม่ว่าจะเพื่อ ท่องเที่ยว เรียนต่อ ทำงาน หรือย้ายถิ่นฐาน สิ่งสำคัญที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ… “การขอวีซ่า” แต่การขอวีซ่าไม่ใช่แค่กรอกฟอร์มแล้วรอผ่าน เพราะ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถทำให้คุณโดนปฏิเสธได้ทันที 😣 และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมคนจำนวนมากเลือกใช้บริการกับ บริษัทรับยื่นวีซ่า โดยเฉพาะทีมที่เข้าใจทั้งเอกสารและระบบของสถานทูตอย่าง Co Journey Visa 💼 7 เหตุผลที่คุณควรใช้บริการบริษัทรับยื่นวีซ่า ✅ 1. รู้จริงเรื่องเอกสาร เอกสารคือหัวใจของการขอวีซ่า — ผิดแค่จุดเดียวก็โดนปัดทิ้งได้เลย! ทีม Co Journey Visa จะช่วยเช็กความถูกต้อง ทุกจุด ทุกฉบับ พร้อมคำแนะนำแบบเข้าใจง่าย ✅ 2. วางแผนเส้นทางวีซ่าให้ตรงจุด บางคนอยากเรียน บางคนอยากอยู่กับแฟน หรือบางคนมีเป้าหมายทำงานถาวร เราช่วยคุณเลือกประเภทวีซ่าให้ เหมาะกับชีวิตและแผนในอนาคต ของคุณที่สุด ✅ 3. ประหยัดเวลา ไม่ต้องปวดหัวกับระบบออนไลน์ ระบบลงทะเบียน วางแผนนัดสัมภาษณ์ หรือยื่นเอกสารกับสถานทูต บางครั้งยุ่งยากมาก เราดูแลให้ครบ!

รู้ไว้ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ หากคุณคือหนึ่งในคนที่มีแพลนจะไป ท่องเที่ยว เรียนต่อ ทำงาน หรือเยี่ยมญาติในต่างประเทศสิ่งแรกๆ ที่ต้องรู้ก่อนจองตั๋วเครื่องบินก็คือคำว่า “วีซ่า” นั่นเอง! แต่หลายคนอาจจะยังสงสัยว่า วีซ่าคืออะไร?ทำไมบางประเทศต้องมี?แล้วมีกี่ประเภท? วันนี้ Co Journey Visa จะมาเล่าให้เข้าใจง่ายๆ เพื่อให้คุณเตรียมตัวเดินทางได้แบบมั่นใจ  📌 วีซ่าคืออะไร? “วีซ่า (Visa)” คือ เอกสารอนุญาต ที่ออกโดยสถานทูตของประเทศปลายทาง เพื่อให้คนต่างชาติ (อย่างเราๆ) สามารถเดินทางเข้าไปในประเทศนั้นได้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด พูดง่ายๆ คือ วีซ่าคือ “ตั๋วผ่านประตู” ถ้าคุณไม่มีวีซ่า ก็เปรียบเสมือนยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในประเทศนั้นนั่นเอง ✈️ วีซ่ามีกี่ประเภท? จริงๆ แล้ววีซ่ามีหลายประเภทมาก! แต่ที่คนไทยใช้บ่อยๆ จะมีหลักๆ ดังนี้ 1. วีซ่าท่องเที่ยว (Tourist Visa) 📍 สำหรับเดินทางไปพักผ่อน ท่องเที่ยว เยี่ยมชมสถานที่ 📌 ใช้ระยะสั้นประมาณ 7-90 วัน แล้วแต่ประเทศ 2. วีซ่าเยี่ยมญาติ/เยี่ยมคู่สมรส