เที่ยวญี่ปุ่นให้สนุก ต้องเริ่มจาก “วีซ่าพร้อม!”
ญี่ปุ่นยังคงเป็นจุดหมายปลายทางอันดับ 1 ในใจคนไทยเสมอ 🌸
ไม่ว่าจะเป็น โตเกียวสุดคึกคัก, เกียวโตสุดคลาสสิก, หรือ ฮอกไกโดสุดโรแมนติกในหน้าหิมะ
แต่ก่อนจะไปเที่ยวให้เต็มอิ่มแบบไม่ต้องกังวล… สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเลยคือ “วีซ่าญี่ปุ่น”
📌 ยังต้องขอวีซ่าไหม? หรือฟรีวีซ่ากลับมาแล้ว?
ปี 2025 แล้ว หลายคนคงมีคำถามคาใจว่า…
“ตอนนี้ไปญี่ปุ่นต้องขอวีซ่าอยู่ไหม?”
“ฟรีวีซ่ากลับมาเหมือนก่อนโควิดหรือยัง?”
“ถ้ายังต้องขอ ขอยากไหม ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง?”
วันนี้ Co Journey Visa รวบรวมคำตอบและอัปเดตล่าสุดแบบเข้าใจง่าย อ่านจบปุ๊บ รู้เลยว่า ต้องเตรียมตัวยังไงถึงจะบินไปญี่ปุ่นได้แบบไม่สะดุด!
📌 วีซ่าญี่ปุ่น ต้องขอไหม?
สำหรับคนไทย ณ ตอนนี้ (อัปเดตปี 2025)
ผู้ที่ประสงค์จะเดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อท่องเที่ยวและพำนักไม่เกิน 15 วัน จะไม่ต้องขอวีซ่า!
รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นให้กับคนไทย ที่มีวัตถุประสงค์จะพำนักที่ประเทศญี่ปุ่น ไม่เกิน 15 วัน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคม พ.ศ. 2556
เอกสารที่ควรนำติดตัวไปเพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่ญี่ปุ่น (หากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไม่ได้ร้องขอ ไม่ต้องแสดง)
ตั๋วเครื่องบินขาออกจากประเทศญี่ปุ่น
สิ่งที่ยืนยันว่าท่านสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างที่พำนักในประเทศญี่ปุ่น (เช่น เงินสด บัตรเครดิต เป็นต้น)
ชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้ระหว่างที่พำนักในประเทศญี่ปุ่น (เช่น คนรู้จัก โรงแรม และอื่นๆ)
กำหนดการเดินทางระหว่างที่พำนักในประเทศญี่ปุ่น
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ : สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
* หมายเหตุ : หากท่านเดินทางเข้าญี่ปุ่นด้วยจุดประสงค์อื่น นอกเหนือจากการท่องเที่ยว ท่านยังคงต้องดำเนินการขอวีซ่าตามปกติ และหากท่านต้องการพำนักในญี่ปุ่นนานกว่า 15 วัน ท่านต้องขอวีซ่า *
แต่ ! หากท่านใด ประสงค์ที่จะท่องเที่ยวเกิน 15 วัน
จะต้องขอวีซ่าท่องเที่ยวญี่ปุ่น (Single Entry) โดยจะมีขั้นตอนดังนี้
📄 ขั้นตอนการขอวีซ่าญี่ปุ่น ในปี 2025
✅ 1. เตรียมเอกสารให้ครบ
พาสปอร์ต (เหลืออายุใช้งานอย่างน้อย 6 เดือน)
รูปถ่ายขนาด 2×2 นิ้ว พื้นหลังขาว (ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน)
แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่า (ดาวน์โหลดจากเว็บไซต์สถานทูตญี่ปุ่น)
แผนการเดินทาง (Itinerary) ระบุวัน-เมือง-กิจกรรม
เอกสารทางการเงิน เช่น สมุดบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน, หนังสือรับรองการทำงาน
เอกสารการจองตั๋วเครื่องบิน และ ที่พัก (ยังไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินจริง แต่ควรมีแผนชัดเจน)
💡 หากมีประวัติเดินทางต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่ม G7 จะช่วยเพิ่มโอกาสได้วีซ่าระยะยาว (Multiple Entry)
✅ 2. ยื่นเรื่องผ่านศูนย์รับยื่น (JVAC)
ปี 2025 นี้ สถานทูตญี่ปุ่นในไทยไม่รับยื่นตรงแล้ว
ต้องยื่นผ่าน JVAC (Japan Visa Application Center) เท่านั้นมีสาขาในกรุงเทพ เชียงใหม่ ขอนแก่น
ค่าบริการประมาณ 1,000 – 1,500 บาท (รวมค่าธรรมเนียมวีซ่า + ค่าศูนย์)
✅ 3. รอผล – รับเล่ม
ปกติใช้เวลา 5-7 วันทำการ
หากขอวีซ่าหมู่คณะหรือช่วงพีค (ซากุระ-ใบไม้แดง) ควรเผื่อเวลาไว้ล่วงหน้า
เมื่อวีซ่าผ่าน จะได้รับการแจ้งให้ไปรับพาสปอร์ตคืนที่ศูนย์
✨ เคล็ดลับ “ขอวีซ่าญี่ปุ่นยังไงให้ผ่านชัวร์!”
จัดเอกสารให้ครบถ้วน & ดูดี
เอกสารชัดเจน ไม่ลบ ไม่ขาด ไม่เขียนด้วยลายมือ
บัญชีเงินฝากต้องเคลื่อนไหวสมเหตุสมผล
ไม่จำเป็นต้องมีเงินแสน แต่ควรมี “การเดินบัญชี” ที่ดูเป็นธรรมชาติ
แผนเที่ยวต้องดูจริง ไม่ลอย ๆ
เขียนระบุวัน-เมือง-กิจกรรม พร้อมลิงก์ประกอบ (เช่น โรงแรม, สถานที่เที่ยว)
อย่าลืมเอกสารทำงานหรือเรียน
เพื่อแสดงว่าคุณมีพันธะต้องกลับมา ไม่ได้หนีไปอยู่ยาว
ขอให้มืออาชีพช่วยจัดเอกสาร
ถ้ากังวลเรื่องเอกสารไม่ครบ หรือเคยถูกปฏิเสธมาแล้ว
→ ให้ Co Journey Visa ช่วยคุณดูแลตั้งแต่ต้นจนจบได้เลย!
📍 อยากทำวีซ่าญี่ปุ่นแบบไม่ต้องปวดหัว?
ติดต่อ Co Journey Visa ได้เลย!
เราช่วยเตรียมเอกสาร, ตรวจความพร้อม, ยื่นแทน, และติดตามผลให้คุณ
มั่นใจได้ในทุกขั้นตอน ประหยัดเวลา ได้ผลลัพธ์ไว
📲 ปรึกษาฟรีที่ LINE: @cojourneyvisa
🌐 หรือเข้าเว็บไซต์: www.cojourneyvisa.com
Co Journey Visa – ผู้ช่วยมืออาชีพของนักเดินทางเช่นคุณ