เข้าใจให้ถูกก่อนยื่น! ไม่เสียเงินฟรี ไม่พลาดไฟลต์
ถ้าคุณกำลังจะเดินทางไปต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศใหญ่ๆ อย่าง สหรัฐอเมริกา แคนาดา อังกฤษ หรือในยุโรป แล้วต้อง แวะเปลี่ยนเครื่อง (Transit) ที่สนามบินต่างประเทศ…
คุณรู้หรือไม่ว่า แค่แวะ ก็อาจต้องใช้วีซ่าแล้ว!
วันนี้ Co Journey Visa จะพาคุณมาทำความเข้าใจแบบง่ายๆ ว่า “วีซ่าท่องเที่ยว” กับ “วีซ่า Transit” ต่างกันอย่างไร? เพื่อให้คุณ วางแผนการเดินทางได้อย่างราบรื่น และไม่เสียเวลา+เงินโดยใช่เหตุ
วีซ่าท่องเที่ยว (Tourist Visa) คืออะไร?
เป็นวีซ่าสำหรับผู้ที่ต้องการ “เข้าไปเที่ยวหรือเยี่ยมญาติ/เพื่อน” ในประเทศนั้น
สามารถอยู่นานได้หลายวัน – หลายเดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศ
ตัวอย่างเช่น:
วีซ่าอเมริกา B1/B2
วีซ่าเชงเก้น (สำหรับยุโรป)
วีซ่าญี่ปุ่น/เกาหลี/อังกฤษ
เหมาะกับใคร:
คนที่ตั้งใจ “เข้าไปเที่ยว”
คนที่ต้อง “ออกจากสนามบิน” ไปพักโรงแรม เดินทางในประเทศ
วีซ่า Transit (หรือวีซ่าผ่านแดน) คืออะไร?
เป็นวีซ่าสำหรับ “แวะเปลี่ยนเครื่อง” ในประเทศนั้นๆ
ส่วนใหญ่ ห้ามออกจากสนามบิน
ใช้เฉพาะกรณี “ต่อเครื่องภายใน 24 ชั่วโมง” และมีเที่ยวบินต่อชัดเจน
🧳 เหมาะกับใคร:
คนที่แค่แวะผ่านประเทศ เช่น
แวะดูไบไปยุโรป
แวะเกาหลีเพื่อไปอเมริกา
แวะอังกฤษเพื่อไปแคนาดา
สถานการณ์ | ต้องใช้วีซ่าอะไร |
เดินทางไป USA และแวะเปลี่ยนเครื่องที่ UK | ต้องมีวีซ่า transit ของ |
ไปแคนาดา แต่ต้องแวะ USA | ต้องมีวีซ่า USA (ถึงแม้ว่าแค่มาแวะ) |
เดินทางไปอิตาลี แต่แวะต่อเครื่องในฝรั่งเศส | ต้องใช้ วีซ่าเชงเก้น (ครอบคลุมทั้งสองประเทศ) |
ไปญี่ปุ่น แล้วแวะดูไบ 10 ชั่วโมง | ไม่ต้องใช้วีซ่า ถ้าไม่ออกจากสนามบิน และสายการบินเดียวกัน |
🚨 ข้อควรรู้: อย่าคิดว่า “ไม่ออกนอกสนามบิน” = ไม่ต้องมีวีซ่า!
บางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา และอังกฤษ แม้แค่เปลี่ยนเครื่อง ก็ต้องขอวีซ่า!
หากไม่มีวีซ่า เจ้าหน้าที่สนามบินมีสิทธิ์ไม่ให้คุณขึ้นเครื่อง หรือถูกปฏิเสธที่จุด Transit ได้เลย
ไม่แน่ใจว่าต้องใช้วีซ่าแบบไหน?
Co Journey Visa ช่วยคุณได้!
เรามีบริการ เช็คเส้นทางบินให้ฟรี ว่าควรใช้วีซ่าแบบไหน
พร้อมดูแล ยื่นเอกสาร – จองคิว – ตอบคำถามสัมภาษณ์ – ซ้อมสัมภาษณ์ แบบครบวงจร
📍 ปรึกษาเราฟรี!
LINE: @cojourneyvisa
🛫 วีซ่าทุกเส้นทาง… ให้ Co Journey พาคุณไปถึงฝัน!