ข้อมูลเอกสารการเงิน ที่สถานทูตเช็คบ่อยที่สุด
หนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้ “วีซ่าถูกปฏิเสธ” คือ หลักฐานทางการเงินไม่ชัดเจนหรือไม่น่าเชื่อถือ
สถานทูตแทบทุกประเทศ — ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย หรือกลุ่มเชงเก้น (Schengen) —
ล้วนให้ความสำคัญกับ “เอกสารการเงิน” เพราะมันสะท้อนถึง ศักยภาพในการใช้จ่ายและเจตนาที่จะกลับประเทศต้นทาง
วันนี้ Co Journey Visa จะพาคุณมาดูว่า เอกสารการเงินแบบไหนที่สถานทูต “เช็คละเอียดที่สุด”
และควรเตรียมอย่างไรให้ถูกต้อง เพื่อเพิ่มโอกาสวีซ่าผ่านในครั้งเดียว
1. Bank Statement (รายการเดินบัญชี)
เอกสารยอดนิยมอันดับ 1 ที่สถานทูตทุกแห่งตรวจละเอียดมากที่สุด
สิ่งที่สถานทูตดูจาก Bank Statement:
- ยอดเงินคงเหลือ (Balance) – ต้องเพียงพอครอบคลุมค่าใช้จ่ายตลอดทริป เช่น ตั๋ว ที่พัก อาหาร
- ความสม่ำเสมอของรายรับ–รายจ่าย – หากเงินเข้า–ออกปกติทุกเดือน จะดู “มีความมั่นคง”
- ประวัติย้อนหลัง – ควรใช้ย้อนหลังอย่างน้อย 3–6 เดือน
- แหล่งที่มาของเงิน – ถ้ามียอดเงินก้อนใหญ่เพิ่งเข้า ควรมีเอกสารอธิบาย เช่น ใบขายทรัพย์สิน หรือโอนจากบัญชีตนเอง
💡 เคล็ดลับ: อย่าโอนเงินก้อนใหญ่ก่อนยื่นเพียงไม่กี่วัน เพราะสถานทูตจะสงสัยว่าเป็นการ “แต่งบัญชี”
2. หนังสือรับรองการเงินจากธนาคาร (Bank Certificate)
เอกสารนี้ออกโดยธนาคารเพื่อยืนยันยอดเงินคงเหลือในบัญชีของผู้ยื่น
สถานทูตใช้เพื่อเช็คว่าคุณมี ฐานะทางการเงินมั่นคงจริง ไม่ได้ใช้ Statement ปลอม
ข้อมูลที่ต้องมีใน Bank Certificate:
- ชื่อ–นามสกุลผู้ถือบัญชี
- เลขที่บัญชี
- ประเภทบัญชี (ออมทรัพย์ / กระแสรายวัน / ฝากประจำ)
- ยอดเงินคงเหลือปัจจุบัน
- วันที่ออกเอกสาร
- ลายเซ็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร
📅 ควรออกไม่เกิน 7 วันก่อนวันยื่น เพื่อให้ข้อมูลเป็นปัจจุบัน
3. สลิปเงินเดือน (Payslip)
อีกหนึ่งหลักฐานสำคัญที่สถานทูตใช้ตรวจสอบ “รายได้ประจำ” ของผู้ยื่น
สิ่งที่สถานทูตดูจากสลิปเงินเดือน:
- ความสม่ำเสมอของรายรับ
- ตำแหน่งงานตรงกับในหนังสือรับรองการทำงานหรือไม่
- ยอดเงินเดือนตรงกับที่แจ้งไว้ในใบสมัครวีซ่าหรือไม่
💡 หากเป็นเจ้าของกิจการ ให้ใช้เอกสารทางการเงินของบริษัทแทน เช่น ภ.พ.30, ภงด.50 หรือใบจดทะเบียนการค้า
4. เอกสารแสดงทรัพย์สิน (Assets)
สำหรับผู้ที่ต้องการแสดงฐานะเพิ่มเติม เช่น วีซ่าระยะยาว หรือวีซ่าประเภทนักลงทุน
เอกสารกลุ่มนี้ช่วย “เสริมความน่าเชื่อถือ” อย่างมาก
ตัวอย่างเอกสารที่สามารถแนบได้:
- โฉนดที่ดิน / ใบจองคอนโด
- เล่มทะเบียนรถ
- หลักทรัพย์หรือลงทุนในกองทุนรวม
- ใบรับรองการถือหุ้น
✅ ยิ่งเอกสารแสดงถึง “ความมั่นคงในประเทศต้นทาง” มากเท่าไร โอกาสผ่านยิ่งสูงขึ้น
5. เอกสารบัญชีร่วมของครอบครัว
กรณีผู้เดินทางไม่ได้มีรายได้เอง เช่น นักเรียน หรือผู้เกษียณ
สามารถใช้เอกสารการเงินของผู้สนับสนุน (Sponsor) ได้
แต่ต้องแนบเอกสารประกอบ เช่น
- หนังสือรับรองความสัมพันธ์ (เช่น สูติบัตร ทะเบียนบ้าน)
- จดหมายรับรองการสนับสนุนค่าใช้จ่าย (Sponsorship Letter)
- Bank Statement / Bank Certificate ของผู้สนับสนุน
💬 ตัวอย่าง: นักเรียนไปเรียนระยะสั้น ใช้บัญชีผู้ปกครองได้ แต่ควรมีจดหมายระบุชัดว่า “ขอรับรองการสนับสนุนค่าใช้จ่ายทั้งหมด”
สิ่งที่ทำให้ “เอกสารการเงิน” น่าสงสัย และอาจถูกปฏิเสธ
- เงินเข้าเป็นก้อนใหญ่ก่อนยื่นไม่นาน (แต่งบัญชี)
- เอกสารออกนานเกิน 1 เดือน
- ยอดเงินไม่สอดคล้องกับค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
- ไม่มีความสม่ำเสมอในการเดินบัญชี
- ใช้ Statement ที่ตัดต่อหรือแก้ไข
เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ Co Journey Visa
✔ เตรียมเอกสารการเงินให้พร้อมล่วงหน้าอย่างน้อย 2–3 เดือนก่อนยื่น
✔ คำนวณค่าใช้จ่ายของทริป (ตั๋ว ที่พัก อาหาร) แล้วให้ยอดเงินคงเหลือสูงกว่านั้น 3 เท่า
✔ ถ้ามีรายได้หลายทาง เช่น เงินเดือนและค่าคอมมิชชั่น ควรแนบทุกบัญชี
✔ ให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจ Statement ก่อนยื่น เพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดเล็ก ๆ ที่อาจทำให้ถูกปฏิเสธ
✨ ให้ Co Journey Visa ดูแลคุณเรื่องเอกสารการเงินและการยื่นวีซ่าอย่างมืออาชีพ
หากคุณไม่แน่ใจว่า
“บัญชีแบบนี้สถานทูตรับไหม?”
หรือ
“ควรใช้ Statement กี่เดือนดี?”
ไม่ต้องกังวล! ให้ทีมผู้เชี่ยวชาญของ Co Journey Visa ช่วยตรวจเอกสารและประเมินความพร้อมก่อนยื่นจริง
ทำไมต้องเลือก Co Journey Visa?
✅ ตรวจสอบเอกสารการเงินตามมาตรฐานสถานทูตทุกประเทศ
✅ ให้คำแนะนำเฉพาะเคส เพื่อเพิ่มโอกาสวีซ่าผ่านในครั้งเดียว
✅ ช่วยจัดเตรียมจดหมายรับรองการเงินหรือสปอนเซอร์ให้ครบ
✅ บริการครบวงจร ตั้งแต่ตรวจเอกสาร แปล ยื่น ติดตามผล จนวีซ่าผ่าน
📞 โทร: 080-8412543 / 061-0312188
📱 LINE: @cojourneyvisa
📧 Email: cojourneyvisa@gmail.com
🌐 เว็บไซต์: www.cojourneyvisa.com
💼 Co Journey Visa – ให้เราดูแลคุณเรื่องวีซ่าทุกประเทศ อย่างมืออาชีพ
เพราะเอกสารการเงินที่ “เตรียมถูกต้อง” คือจุดเริ่มต้นของ การได้วีซ่าผ่านอย่างมั่นใจในครั้งเดียว!

