Uncategorized

Tourist Visa กับ Business Visa ใช้แทนกันไม่ได้ เพราะถึงแม้ทั้งสองแบบจะเป็น “วีซ่าระยะสั้น” เหมือนกัน แต่ “วัตถุประสงค์ของการเดินทางต่างกันโดยสิ้นเชิง” และถ้าใช้ผิดประเภท → อาจถูกปฏิเสธเข้าประเทศ หรือ กระทบต่อการขอวีซ่าในอนาคต   สรุปความแตกต่างหลัก รายการ Tourist Visa (วีซ่าท่องเที่ยว) Business Visa (วีซ่าธุรกิจ) วัตถุประสงค์ ท่องเที่ยว, เยี่ยมญาติ, พักผ่อน ประชุม, เจรจาธุรกิจ, ดูงาน เอกสารประกอบ เอกสารการท่องเที่ยวทั่วไป จดหมายเชิญ, หนังสือรับรองบริษัท การใช้เข้าเมือง พูดถึงแผนท่องเที่ยว ต้องตอบเรื่องกิจกรรมธุรกิจ ผู้ขอ บุคคลทั่วไป ผู้ที่มีธุรกิจ / บริษัทรองรับ ความเสี่ยงหากใช้ผิด เสี่ยงถูกกักตัว / ปฏิเสธเข้าเมือง ผิดเงื่อนไขการเข้าประเทศ ตัวอย่างที่พบบ่อย (และผิดพลาด) ไป ออกบูธงานแสดงสินค้า แต่ใช้ Tourist […]

ได้ยินมาว่าต้องซื้อตั๋วเครื่องบินก่อนยื่นวีซ่า จริงเหรอ?” แล้วถ้าไม่ผ่านล่ะ? เสียเงินฟรีมั้ย? วันนี้มาหาคำตอบกันชัด ๆ ว่า “ต้องซื้อตั๋วจริงก่อนขอวีซ่าหรือไม่?”   คำถามนี้ยอดฮิตมากครับ และคำตอบก็คือ…  ❌ ไม่จำเป็นต้องซื้อตั๋วเครื่องบินจริงก่อนยื่นวีซ่า ✅ แต่ ต้องมีหลักฐานการจองตั๋วเครื่องบิน (Flight Reservation หรือ Flight Itinerary) ไป–กลับ เพื่อแนบประกอบการพิจารณาวีซ่า   ทำไมไม่ควรซื้อตั๋วจริงก่อนวีซ่าออก? ถ้าซื้อตั๋วเครื่องบินจริง แล้ว วีซ่าไม่ผ่าน = เสียเงินฟรี สายการบินส่วนใหญ่ ไม่คืนเงินเต็มจำนวน สถานทูตเข้าใจดี จึงไม่ได้ขอ “ตั๋วจริง” ขอแค่หลักฐานแสดง “แผนการเดินทาง” เท่านั้น แล้วจะใช้เอกสารแบบไหนแทน? คุณสามารถใช้เอกสารที่เรียกว่า:   ✅ Flight Reservation / Itinerary คือ ใบจองตั๋วแบบยังไม่จ่ายเงินเต็ม หรือแบบยืดหยุ่น ซึ่งแสดงรายละเอียดดังนี้: ชื่อผู้โดยสาร วัน–เวลาเดินทาง หมายเลขเที่ยวบิน เมืองต้นทางและปลายทาง ข้อมูลสายการบิน

วีซ่าธุรกิจ (Business Visa) คืออะไร? วีซ่าธุรกิจคือวีซ่าสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศเพื่อ กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับงานหรือธุรกิจ เช่น: ประชุมกับคู่ค้า / พันธมิตร เยี่ยมลูกค้าหรือโรงงาน เข้าร่วมงานแฟร์ / งานสัมมนา เซ็นสัญญา / เจรจาธุรกิจ ตรวจสอบคุณภาพสินค้า เปิดตลาดใหม่ / Survey ตลาด ไม่ใช่เพื่อทำงานประจำในประเทศนั้น ๆ (ถ้าจะทำงาน ต้องใช้ Work Visa อีกประเภท)   เอกสารที่ “เหมือนกับ” วีซ่าท่องเที่ยวทั่วไป พาสปอร์ตที่ยังไม่หมดอายุ (เหลืออย่างน้อย 6 เดือน) รูปถ่ายตามที่สถานทูตกำหนด แบบฟอร์มยื่นวีซ่า + ใบนัด (ถ้ามี) ตั๋วเครื่องบินไป–กลับ ใบจองโรงแรม ประกันการเดินทาง หลักฐานการเงิน (เช่น Bank Statement ย้อนหลัง 3–6 เดือน) เอกสาร “เพิ่มเติมเฉพาะ” สำหรับวีซ่าธุรกิจ

วีซ่าท่องเที่ยวแบบ 2 ประเทศคืออะไร? คือการวางแผนเดินทางไป มากกว่า 1 ประเทศ ในทริปเดียว โดยต้องยื่นขอวีซ่าให้ครอบคลุมทุกประเทศที่จะไป เช่น: ญี่ปุ่น – เกาหลี ฝรั่งเศส – อิตาลี เยอรมนี – เช็ก – ออสเตรีย คำถามคือ… 👉 จะขอ “ประเทศไหนดี?” 👉 ต้องขอแยก 2 ใบหรือไม่?   หลักการขอวีซ่าเมื่อต้องเดินทางหลายประเทศ ถ้าเป็นประเทศในเขต Schengen (ยุโรป) ขอแค่ประเทศเดียวก็พอ แต่ต้องดูว่า: ต้องขอจากประเทศใด? ถ้าอยู่ “นานที่สุด” ที่ประเทศไหน → ขอที่ประเทศนั้น ถ้าอยู่เวลาเท่า ๆ กัน → ขอที่ “ประเทศแรกที่เดินทางเข้า” (first port of entry) ตัวอย่าง: ฝรั่งเศส 5

อยากให้พ่อแม่มาเยี่ยมที่ต่างประเทศ ต้องเริ่มยังไง? หลายคนที่เรียนต่างประเทศมักอยากให้ครอบครัวมาเยี่ยม และข่าวดีคือ… “ทำได้และขอวีซ่าได้ไม่ยาก” ถ้าคุณเตรียมเอกสารครบ โอกาสผ่านถือว่าสูงมาก วีซ่าที่พ่อแม่ใช้ในการเยี่ยมลูก ขึ้นอยู่กับประเทศที่ลูกเรียน เช่น ออสเตรเลีย → Visitor Visa (Subclass 600 – Family Sponsored) อังกฤษ → Standard Visitor Visa แคนาดา → Visitor Visa (Temporary Resident Visa) อเมริกา → B-2 Tourist Visa นิวซีแลนด์ → Visitor Visa ญี่ปุ่น → วีซ่าท่องเที่ยวเพื่อเยี่ยมญาติ เยอรมนี → วีซ่าเยี่ยมญาติ (Schengen Visa Type C) เอกสารที่ “นักเรียน” ต้องเตรียมให้พ่อแม่ใช้ยื่นวีซ่า จดหมายเชิญ (Invitation

ต่อวีซ่านักเรียนในประเทศ VS ขอใหม่จากนอกประเทศ หลายคนที่กำลังเรียนอยู่ในต่างประเทศ หรือกำลังจะหมดวีซ่าเรียน มักจะมีคำถามว่า… ❓จะต่อวีซ่าในประเทศเลยดี หรือกลับไทยแล้วขอวีซ่าใหม่ดีกว่า? มาดูข้อแตกต่างแบบชัด ๆ กันเลยครับ ต่อวีซ่านักเรียน “ในประเทศ” (Onshore Extension) ข้อดี: ไม่ต้องเดินทางกลับไทย ไม่ต้องเสียค่าตั๋วเครื่องบิน ประหยัดเวลา รอผลวีซ่าในประเทศได้เลย ต่อเนื่องกับการเรียนหรือแผนชีวิต ⚠️ ข้อควรระวัง: ต้องยื่น ก่อนวีซ่าเดิมหมด เอกสารต้องเป๊ะ เช่น ใบตอบรับจากโรงเรียนใหม่, CoE (ถ้ามี), ประกันสุขภาพ ฯลฯ บางประเทศค่าธรรมเนียมต่อวีซ่าแพงกว่าการยื่นใหม่จากไทย ถ้ามีประวัติเสี่ยง หรือเปลี่ยนประเภทหลักสูตร อาจถูกตรวจเข้ม   ขอวีซ่าใหม่ “จากประเทศไทย” (Offshore Application) ข้อดี: เริ่มต้นใหม่ เหมาะกับคนที่เปลี่ยนประเทศ / เปลี่ยนระดับการศึกษา สถานทูตบางแห่งใช้เกณฑ์ที่ “ผ่อนคลายกว่า” สำหรับผู้สมัครใหม่ ถ้าเอกสารพร้อมและคุณสมบัติแข็งแรง มีโอกาสผ่านได้ง่ายกว่าในบางเคส ⚠️ ข้อควรระวัง: ต้องเสียเวลารอกลับไทย +

อวีซ่าเรียนในวัย 30+ โอกาสผ่านมากน้อยแค่ไหน? 💡 คำตอบสั้น: ผ่านได้แน่นอน! แต่ต้อง “อธิบายเหตุผลในการเรียน” ให้ดี และเอกสารต้อง เชื่อมโยงกับเป้าหมายชีวิต / อาชีพ / การพัฒนาตัวเองอย่างชัดเจน ทำไมวัย 30+ ถึงมักกังวลเรื่องวีซ่า? เพราะสถานทูตจะ “ตั้งคำถามอัตโนมัติ” กับคนที่อายุมากกว่ากลุ่มวัยนักเรียนทั่วไป เช่น: ทำไมเพิ่งไปเรียนตอนอายุ 30+?   เรียนแล้วจะเอาไปทำอะไร?   คุณมีครอบครัวแล้วหรือยัง? จะกลับมาจริงไหม?   ไปเรียนจริง หรือมีเจตนาแฝง?   แต่ถ้า คุณเตรียมคำตอบดี + เอกสารชัดเจน = โอกาสผ่านสูงมาก (ลูกค้าของ Co Journey Visa วัย 30+ ผ่านมาแล้วหลายสิบคนครับ)   ตัวอย่างเคสที่ “มีโอกาสผ่านสูง” แม้อายุ 30+ อายุ 33 ปี ทำงานสายท่องเที่ยว

ทำไมคนเรียนภาษาถึงมักโดนปฏิเสธวีซ่าเรียน? แม้การเรียนภาษาจะดูเป็นเรื่องเบา ๆ แต่สถานทูตกลับ “เคร่ง” กับการอนุมัติมากกว่าที่หลายคนคิด เพราะมีปัจจัยเสี่ยงหลายด้านที่ทำให้เจ้าหน้าที่ “ไม่มั่นใจ” ว่าคุณจะกลับมาประเทศไทย สาเหตุยอดฮิตที่วีซ่าเรียนภาษา “ไม่ผ่าน” 1. ไม่มีเป้าหมายชัดเจนหลังจากเรียนภาษา  ❌  ไปเรียนเฉย ๆ ไม่มีแผนต่อ ป.ตรี / ป.โท หรือกลับมาทำงานอะไรในไทย 👉 สถานทูตจะมองว่า “เรียนเสร็จแล้วจะทำอะไร?” ถ้าอธิบายไม่ได้ ก็เสี่ยงถูกปฏิเสธ   2. เอกสารการเงินไม่น่าเชื่อถือ  ❌ บัญชีเพิ่งฝากเงินก้อนใหญ่ หรือไม่มีการเคลื่อนไหว ❌ ไม่มีจดหมายรับรองจากผู้สนับสนุน 👉 สถานทูตมองว่าอาจขาดความมั่นคงทางการเงินระหว่างเรียน   3. ไม่สามารถอธิบายเหตุผลที่ต้องไปเรียนภาษาที่ต่างประเทศ ❌ เรียนภาษาอังกฤษในไทยก็ได้ ทำไมต้องไปออสเตรเลีย / แคนาดา? 👉 ถ้าคุณไม่สามารถให้เหตุผลที่สมเหตุสมผล เช่น การนำภาษาไปใช้ต่อยอดจริง ๆ ก็อาจโดนปฏิเสธ   4. อายุเยอะเกินไป หรือวุฒิการศึกษาห่างจากปัจจุบันนานเกิน  ❌

ประเทศที่ขอวีซ่าเรียนง่ายสำหรับคนไทย (อัปเดตล่าสุด ปี 2025)  ✅ เอกสารไม่เยอะ ✅ ไม่ต้องใช้ผลสอบภาษา (ในบางกรณี) ✅ โอกาสผ่านสูง ถ้าหลักฐานการเงินครบ ✅ ระยะเวลาดำเนินการไว   มาเลเซีย จุดเด่น: อยู่ใกล้ไทย เดินทางสะดวก วีซ่าเรียนไม่ต้องสัมภาษณ์ ไม่ต้องใช้ IELTS ในหลายหลักสูตร ค่าเรียนและค่าครองชีพถูกมาก หลายสถาบันเปิดสอนเป็นภาษาอังกฤษ เหมาะกับ: คนที่อยากลองเรียนต่างประเทศครั้งแรก / ไม่อยากใช้เงินเยอะ   จีน วีซ่าเรียนประเภท X1/X2 ขึ้นอยู่กับระยะเวลา มหาวิทยาลัยจีนมีทุนเยอะมากสำหรับนักเรียนต่างชาติ หลักสูตรภาษาอังกฤษก็มีเพิ่มขึ้น วีซ่าเรียนจีนใช้เอกสารไม่ซับซ้อน และไม่ต้องสัมภาษณ์ หมายเหตุ: ต้องใช้ใบตอบรับจากมหาวิทยาลัยและฟอร์ม JW202 หรือ JW201   ฟิลิปปินส์ คนไทยไปเรียนภาษาอังกฤษที่ฟิลิปปินส์จำนวนมาก วีซ่าเรียนระยะสั้น (SST) สามารถขอที่ประเทศปลายทางได้เลย ไม่ต้องใช้ Statement การเงินสูง ใช้พาสปอร์ตธรรมดาก็เรียนได้ 1–2 เดือนแบบไม่ต้องขอวีซ่าก่อนเข้า

วางแผนเรียน 1 ปีในต่างประเทศ ต้องใช้งบเท่าไร? การเรียน 1 ปีในต่างประเทศคือโอกาสทองสำหรับหลายคน ไม่ว่าจะเพื่อเพิ่มทักษะภาษา, สะสมประสบการณ์ชีวิต, หรือเรียนหลักสูตรเฉพาะทาง แต่ก่อนจะเดินทาง สิ่งสำคัญที่สุดคือ “วางแผนงบประมาณให้พร้อม”   ค่าครองชีพหลัก ๆ ที่ต้องเตรียม ค่าเล่าเรียน ค่าที่พัก ค่ากินอยู่ / เดินทาง / อินเทอร์เน็ต ค่าประกันสุขภาพ / ค่าตรวจสุขภาพ ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าทำวีซ่า / แปลเอกสาร / ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ   ตารางประเมินงบโดยประมาณ (เรียน 1 ปี)   ประเทศ ค่าเรียน (ต่อปี) ค่าครองชีพ (ต่อปี) งบรวมโดยประมาณ มาเลเซีย 100,000–200,000 บาท 150,000–200,000 บาท 250,000 – 400,000 บาท