Uncategorized

บริการตรวจสอบเอกสารฟรี เมื่อสมัครทำวีซ่ากับเรา การยื่น วีซ่า อาจเป็นเรื่องซับซ้อนสำหรับหลายคน ไม่ว่าจะเป็นวีซ่าท่องเที่ยว วีซ่านักเรียน วีซ่าธุรกิจ หรือวีซ่าเยี่ยมเยียน เอกสารที่ไม่ครบ ไม่ชัดเจน หรือไม่ตรงตามข้อกำหนดของสถานทูต เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้วีซ่าถูกปฏิเสธ Co Journey Visa เข้าใจดีถึงความกังวลและความยุ่งยากนี้ จึงได้พัฒนาบริการ “ตรวจสอบเอกสารฟรี” เพื่อช่วยผู้สมัครทุกคนให้มั่นใจว่าเอกสารพร้อมสมบูรณ์ก่อนยื่นวีซ่า เพิ่มโอกาสผ่านและลดความเสี่ยงที่จะถูกปฏิเสธ   ทำไมต้องตรวจสอบเอกสารก่อนยื่นวีซ่า? 1. เอกสารครบ ถูกต้อง เพิ่มโอกาสผ่านสูงสุด การยื่นวีซ่าที่ถูกต้องและครบถ้วนตั้งแต่แรก มีโอกาสผ่านสูงกว่าการแก้ไขหลังถูกปฏิเสธ   2. ลดความผิดพลาดและเสียเวลา หลายคนมักส่งเอกสารไม่ครบ หรือกรอกฟอร์มผิด ทำให้ต้องเริ่มต้นใหม่ และเสียเวลานัดคิวใหม่ บริการตรวจสอบเอกสารช่วยแก้ปัญหานี้ตั้งแต่ต้น   3. ปรับเอกสารให้ตรงตามมาตรฐานสถานทูต แต่ละประเทศมีเงื่อนไขเอกสารที่แตกต่างกัน เช่น การจัดรูปแบบ Statement, หนังสือรับรองการทำงาน, จดหมายอธิบายการเดินทาง หรือเอกสารผู้เชิญ ผู้เชี่ยวชาญของเราจะตรวจและปรับให้ถูกต้องตามข้อกำหนด   4. เพิ่มความมั่นใจให้ผู้สมัครทุกคน เมื่อเอกสารครบและชัดเจน ผู้สมัครจะมั่นใจและสบายใจมากขึ้น เพราะรู้ว่าทุกขั้นตอนถูกตรวจสอบโดยมืออาชีพ   […]

วีซ่าไม่ผ่านจากปัญหาเอกสารการงานและการเงิน? เรามีวิธีแก้ที่ได้ผล หนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้วีซ่าถูกปฏิเสธคือ เอกสารการงานและการเงินไม่ครบหรือไม่ชัดเจน ไม่ว่าคุณจะยื่นวีซ่าท่องเที่ยว วีซ่าธุรกิจ หรือวีซ่านักเรียน การแสดงฐานะทางการเงินและการทำงานให้สถานทูตมั่นใจว่าคุณจะกลับประเทศไทยเป็นเรื่องสำคัญมาก หลายคนพบปัญหาเช่น หนังสือรับรองการทำงานไม่ตรงกับเอกสารการเงิน รายได้ไม่สอดคล้องกับค่าใช้จ่ายในระยะเวลาที่เดินทาง สลิปเงินเดือนหรือ Statement มีความผิดปกติ เช่น ยอดเงินฝากไม่สม่ำเสมอ ไม่มีเอกสารเสริมเพื่อยืนยันความผูกพันในไทย เช่น ทรัพย์สิน ครอบครัว หรือธุรกิจ ผลลัพธ์คือ วีซ่าถูกปฏิเสธ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่น่าหงุดหงิดและเสียเวลา   ทำไมเอกสารการงานและการเงินสำคัญต่อการยื่นวีซ่า? 1. สถานทูตต้องการความมั่นใจว่าผู้ยื่นจะกลับไทย เอกสารการงานและการเงินเป็นตัวพิสูจน์ว่า คุณมีงานประจำหรือธุรกิจที่มั่นคง คุณมีรายได้เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายในการเดินทาง คุณมีเหตุผลที่จะกลับประเทศไทยหลังจบการเดินทาง 2. รายได้และการเงินต้องสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ถ้าไปท่องเที่ยวหลายวันแต่บัญชีเงินฝากไม่เพียงพอ หรือค่าใช้จ่ายไม่ตรงกับรายได้ สถานทูตจะสงสัยความน่าเชื่อถือ   3. เอกสารผิดรูปแบบหรือไม่ครบสามารถทำให้ไม่ผ่านทันที หนังสือรับรองการทำงานเก่า หรือไม่ระบุวันเริ่มงาน Statement ที่ไม่มีรายการชัดเจนหรือเดินบัญชีไม่ต่อเนื่อง เอกสารไม่แปลหรือไม่รับรองตามมาตรฐาน การขาดความถูกต้องเพียงจุดเดียว ก็สามารถส่งผลต่อผลการพิจารณา 4. ผู้เคยถูกปฏิเสธต้องระวังเป็นพิเศษ หากวีซ่าครั้งก่อนไม่ผ่าน เพราะเอกสารการเงินหรือการงานไม่ชัดเจน การยื่นครั้งต่อไปต้องเสริมเอกสารอย่างละเอียดเพื่อให้สถานทูตมั่นใจว่า “ปัญหาซ้ำจะไม่เกิดขึ้นอีก”   วิธีแก้ปัญหาเอกสารการงานและการเงินที่

บริการทำวีซ่า สำหรับผู้ที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษ: ให้มืออาชีพช่วยดูแลทุกขั้นตอน การขอวีซ่าเป็นหนึ่งในกระบวนการที่หลายคนรู้สึกกังวล โดยเฉพาะผู้ที่ ไม่ถนัดภาษาอังกฤษ หรือต้องจัดการเอกสารที่เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแบบฟอร์ม การเขียนจดหมายอธิบาย (Cover Letter) การตอบคำถามสถานทูต หรือการเตรียมเอกสารที่ต้องแปลอย่างถูกต้องตามเงื่อนไขของแต่ละประเทศ สิ่งเหล่านี้ทำให้หลายคนเผชิญกับปัญหา เช่น กรอกฟอร์มผิดเพราะอ่านไม่เข้าใจ แปลเอกสารผิดความหมายจนสถานทูตปฏิเสธ ตอบคำถามไม่ตรงประเด็น ส่งเอกสารไม่ครบเพราะไม่รู้ว่าข้อกำหนดจริงๆ ต้องการอะไร เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจทำให้ “วีซ่าไม่ผ่าน” บริการทำวีซ่าโดยผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นทางออกที่เหมาะสำหรับคนที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษที่สุด   ทำไมคนที่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษควรใช้บริการทำวีซ่า? 1. ฟอร์มวีซ่าหลายประเทศมีศัพท์เทคนิคเฉพาะ แบบฟอร์มของประเทศในยุโรป สหรัฐฯ ออสเตรเลีย แคนาดา หรือแม้แต่วีซ่าของเอเชียบางประเทศ มีคำศัพท์เฉพาะทางกฎหมายและการย้ายถิ่นฐานที่ต้องตีความให้ถูกต้อง การกรอกข้อมูลผิดเพียงจุดเดียว อาจทำให้เอกสารถูกปฏิเสธได้ทันที   2. จดหมายอธิบายต้องใช้ภาษาอังกฤษที่กระชับ ชัดเจน และมืออาชีพ หลายเคสตกม้าตายเพราะจดหมายอธิบายเขียนไม่ถูกต้อง เช่น เขียนยาวเกินไป ไม่ตอบคำถามหลักที่สถานทูตต้องการ ใช้ภาษาที่ไม่เป็นทางการ การมีผู้เชี่ยวชาญช่วยเขียนให้ตั้งแต่แรก ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก 3. เอกสารแปลภาษาอังกฤษต้องเป็นแบบ “ถูกต้องและสอดคล้องกัน” บางประเทศต้องใช้เอกสารแปลแบบเฉพาะ เช่น แปลโดยนักแปลที่ได้รับการรับรอง แปลแบบ Notary

วีซ่าเยี่ยมเยียนเยอรมนี: ทำไมเอกสารต้องละเอียดเป็นพิเศษ การยื่น วีซ่าเยี่ยมเยียนเยอรมนี (Germany Visitor Visa) เป็นหนึ่งในประเภทวีซ่าที่มีการตรวจสอบเอกสารอย่างเข้มงวดที่สุดในกลุ่มประเทศเชงเก้น เพราะถือว่าเป็นการเดินทางที่เกี่ยวข้องกับ “บุคคลที่อยู่ในเยอรมนี” และสถานทูตต้องประเมินทั้งฝั่งผู้ยื่นในไทย และผู้เชิญในเยอรมนีอย่างละเอียด เพื่อป้องกันการพำนักเกินกำหนดหรือเข้าไปทำกิจกรรมที่ไม่ตรงกับวัตถุประสงค์   ดังนั้น หากเอกสารไม่ครบ ไม่ชัดเจน หรือข้อมูลไม่ตรงกันเพียงเล็กน้อย ก็อาจนำไปสู่การถูกปฏิเสธวีซ่าได้ทันที นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม… ยื่นวีซ่าเยี่ยมเยียนเยอรมนี ต้องละเอียดเป็นพิเศษกว่าวีซ่าเชงเก้นประเภทอื่น   Co Journey Visa ผ่านการดูแลเคสเยี่ยมเยียนเยอรมนีมามากมาย ทั้งเคสทั่วไป เคสเยี่ยมญาติ เคสแฟน/คู่รัก เคสผู้สูงอายุ ไปจนถึงเคสที่เคยถูกปฏิเสธมาก่อน เราจึงเข้าใจชัดเจนว่าเอกสารแบบใดที่สถานทูต “ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ” และเอกสารแบบใดที่ “ทำให้เสี่ยงถูกปฏิเสธ”   ทำไมวีซ่าเยี่ยมเยียนเยอรมนี ต้องใช้เอกสารละเอียดเป็นพิเศษ 1. เยอรมนีเข้มงวดเรื่องความสัมพันธ์ของผู้ยื่นกับผู้เชิญ สถานทูตต้องการเอกสารที่พิสูจน์ว่า ผู้ยื่นกับผู้เชิญมีความสัมพันธ์จริง ไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่สร้างขึ้นเพื่อให้เดินทางไปพำนักระยะยาว มีหลักฐานยืนยันความสัมพันธ์ย้อนหลัง เช่น รูปถ่าย ประวัติการติดต่อ หรือเอกสารครอบครัว ความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจน หรือเอกสารพิสูจน์ไม่เพียงพอ = เสี่ยงมาก   2.

บริการรับทำวีซ่าฝรั่งเศส: อัตราผ่านสูงกว่าเมื่อมีที่ปรึกษา การยื่น วีซ่าฝรั่งเศส (France Schengen Visa) เป็นหนึ่งในขั้นตอนที่หลายคนมองว่ายากและใช้เวลาเตรียมเอกสารค่อนข้างมาก เนื่องจากสถานทูตฝรั่งเศสให้ความสำคัญกับความครบถ้วนของข้อมูล ความสัมพันธ์ในประเทศไทย และความน่าเชื่อถือของไฟล์เอกสารอย่างมาก ผู้ยื่นหลายคนจึงพบปัญหา เช่น เอกสารไม่ครบ ความขัดแย้งของข้อมูล เดินบัญชีไม่ดี หรือเตรียมตัวไม่เหมาะสม จนนำไปสู่การ ถูกปฏิเสธวีซ่า แม้จะมีวัตถุประสงค์การเดินทางที่ชัดเจนก็ตาม   ดังนั้น การมีที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์ในการเตรียมวีซ่าฝรั่งเศสโดยเฉพาะ จึงช่วยเพิ่มอัตราการผ่านได้อย่างชัดเจน เพราะผู้เชี่ยวชาญรู้ว่าควรเตรียมอะไร ต้องระวังอะไร และต้องเสริมเอกสารแบบไหนเพื่อให้ไฟล์มีน้ำหนักมากที่สุด   Co Journey Visa ได้ดูแลเคสวีซ่าฝรั่งเศสจำนวนมาก ทั้งเที่ยว เยี่ยมญาติ ธุรกิจ ศึกษาต่อ ไปจนถึงเคสที่เคยถูกปฏิเสธมาก่อน และเราพบว่าลูกค้าที่มีที่ปรึกษาตั้งแต่ต้นมักมีอัตราผ่านที่สูงกว่ามาก เนื่องจากสามารถจัดการจุดเสี่ยงต่าง ๆ ได้ทันก่อนยื่นจริง   ทำไมการยื่นวีซ่าฝรั่งเศสถึงต้องมีที่ปรึกษา? 1. ฝรั่งเศสเข้มงวดเรื่องเอกสารมากกว่าหลายประเทศ ฝรั่งเศสต้องการข้อมูลที่ครบทุกจุด เช่น ความสัมพันธ์กับผู้เชิญ (ถ้ามี) รายได้และสถานะทางการเงิน วัตถุประสงค์การเดินทางที่ชัดเจน ความผูกพันในไทย เช่น งาน ครอบครัว

บริการทำวีซ่าด่วน: ตัวช่วยสำหรับคนที่ต้องเดินทางกระทันหัน ในยุคที่ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็ว การเดินทางต่างประเทศแบบ “กระทันหัน” กลายเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็น การเดินทางไปทำธุรกิจด่วน การไปประชุมหรือเซ็นสัญญาที่เพิ่งถูกนัดหมาย เหตุฉุกเฉินทางครอบครัว เช่น เยี่ยมญาติหรือผู้ป่วยในต่างประเทศ โอกาสเดินทางพิเศษที่ไม่อาจปฏิเสธ หรือการจองทัวร์/ตั๋วโปรที่ต้องออกเดินทางในเวลาอันใกล้ แต่เมื่อต้องการเดินทางเร็ว สิ่งที่กลายเป็น “อุปสรรคใหญ่ที่สุด” สำหรับหลายคนคือ วีซ่า เพราะการยื่นวีซ่าต้องใช้เอกสารครบถ้วน ต้องมีการนัดหมายคิว และต้องรอเวลาพิจารณา ซึ่งในบางประเทศใช้เวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ นี่จึงเป็นเหตุผลที่บริการ “ทำวีซ่าด่วน” (Urgent Visa Service) ของ Co Journey Visa ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อช่วยแก้ปัญหาสำหรับผู้ที่ไม่สามารถรอได้นาน และต้องการให้ทุกขั้นตอนเป็นไปอย่างรวดเร็วที่สุด   ทำไมการทำวีซ่าด่วนถึงสำคัญ? 1. ช่วยลดความเสี่ยงเรื่องเอกสารไม่ครบ เมื่อเวลาเหลือน้อย การเตรียมเอกสารผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อย อาจทำให้ต้องเลื่อนเดินทางทันที บริการทำวีซ่าด่วนจะช่วยตรวจเอกสารให้ครบ ถูกต้อง และพร้อมยื่นตั้งแต่ครั้งแรก   2. ได้คิวยื่นเร็วขึ้น หลายประเทศมีระบบคิวที่เต็มเร็วมาก เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส เชงเก้น ญี่ปุ่นบางช่วง หรือแม้แต่ประเทศในตะวันออกกลาง

ทำไมวีซ่าถึงผ่านยากสำหรับผู้สูงอายุ? เรามีวิธีแก้ที่ได้ผล ผู้สูงอายุจำนวนมากพบปัญหา “ยื่นวีซ่าแล้วไม่ผ่าน” หรือ “ถูกเรียกเอกสารเพิ่ม” แม้ว่าจะมีวัตถุประสงค์การเดินทางที่ชัดเจน เช่น ไปเยี่ยมลูกหลาน เที่ยวพักผ่อน หรือไปดูแลครอบครัวในต่างประเทศ แต่หลายสถานทูตกลับพิจารณาอย่างเข้มงวดมากขึ้นสำหรับผู้สูงอายุ สาเหตุหลักไม่ใช่เรื่องอายุโดยตรง แต่เกิดจาก ข้อมูลที่ไม่ครบ ความผูกพันในประเทศไทยไม่ชัดเจน หรือการจัดเตรียมเอกสารที่ไม่สอดคล้องกับเงื่อนไขของสถานทูต ซึ่งทำให้เกิดความเสี่ยงในการพิจารณาเอกสาร   ที่ Co Journey Visa เรามีประสบการณ์ตรงในการดูแลเคสผู้สูงอายุจำนวนมาก ทั้งผู้ที่เดินทางครั้งแรก หรือเคยถูกปฏิเสธมาก่อน เรารู้ว่าต้องเตรียมข้อมูลแบบไหนให้สถานทูตเห็นภาพชัดเจน และสามารถผ่านได้อย่างมืออาชีพ   ทำไมวีซ่าผู้สูงอายุจึงผ่านยาก? 1. ความผูกพันในประเทศไทยไม่ชัดเจน ผู้สูงอายุหลายคนเกษียณแล้ว ไม่มีรายได้ประจำ ไม่มีงานประจำ ทำให้สถานทูตมองว่าความสัมพันธ์กับประเทศไทยอาจไม่มั่นคงพอ   2. ฐานะทางการเงินไม่สมบูรณ์ หรือยื่นผิดรูปแบบ แม้จะมีเงินฝาก แต่บางครั้งไม่มีการเดินบัญชีอย่างต่อเนื่อง หรือมีการฝาก–ถอนผิดปกติ ทำให้สถานทูตตั้งข้อสงสัยเรื่องความน่าเชื่อถือของไฟล์   3. เอกสารสนับสนุนไม่ครบถ้วน หลายเคสไม่ได้แนบเอกสารของผู้เชิญ เอกสารครอบครัว หรือคำอธิบายประกอบ จึงทำให้การยื่นไม่สมบูรณ์   4. เดินทางต่างประเทศน้อย หรือไม่เคยเดินทางเลย

ทำไมลูกค้าที่เคยถูกปฏิเสธ ถึงเลือกใช้บริการเราอีกครั้ง การถูกปฏิเสธวีซ่าอาจเป็นประสบการณ์ที่ทำให้ผู้เดินทางหลายคนรู้สึกกังวล หมดกำลังใจ และไม่รู้ว่าตนเองพลาดตรงจุดไหน แต่สิ่งหนึ่งที่ Co Journey Visa พบมาตลอดหลายปี คือ “ลูกค้าจำนวนมากกลับมาใช้บริการเราอีกครั้ง” เพราะเมื่อพวกเขาได้ลองให้เราช่วยดูแลอย่างจริงจัง ผลลัพธ์ที่ได้รับคือ “วีซ่าผ่านจริง” พร้อมความสบายใจตลอดกระบวนการ เราเข้าใจดีว่าทุกเคสที่ถูกปฏิเสธมีเหตุผลอยู่เบื้องหลัง และด้วยประสบการณ์ที่ทำงานกับเคสยาก เคสซับซ้อน และเคสที่เคยโดนปฏิเสธมาก่อน ทำให้เราเชี่ยวชาญในการแก้ไขปัญหาอย่างเฉพาะทาง โดยคำนึงถึงเงื่อนไขและข้อกำหนดของแต่ละสถานทูตเป็นสำคัญ   เหตุผลที่ลูกค้ากลับมาใช้บริการเราอีกครั้งหลังถูกปฏิเสธ 1. วิเคราะห์สาเหตุอย่างละเอียดและตรงจุด เราไม่ใช่แค่ช่วยเตรียมเอกสาร แต่เรา “วิเคราะห์ไฟล์เคส” แบบเจาะลึกว่าทำไมถึงถูกปฏิเสธครั้งก่อน พร้อมให้คำแนะนำที่แม่นยำว่าควรแก้ไขอะไร เสริมส่วนไหน และต้องเตรียมตัวอย่างไรเพื่อยื่นใหม่ให้มีโอกาสผ่านสูงที่สุด   2. ประสบการณ์จากเคสยากและเคสปฏิเสธจำนวนมาก Co Journey Visa มีสถิติจากเคสวีซ่ายาก เช่น โปรไฟล์บางส่วนขาด เอกสารไม่ครบ รายได้ไม่สอดคล้อง หรือเคยถูกปฏิเสธหลายครั้ง — เราแก้ได้จริง และลูกค้าหลายคนก็ประสบความสำเร็จในการยื่นใหม่กับเรา   3. ให้คำปรึกษาตรงไปตรงมา ไม่ขายฝัน เราจะประเมินความเป็นไปได้ของเคสอย่างตรงไปตรงมา พร้อมวางแผนที่เป็นไปได้จริง ไม่ปิดบัง

รับทำวีซ่าเกาหลี: เคล็ดลับสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสผ่าน การเดินทางไปเกาหลีใต้กำลังเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นท่องเที่ยว ช้อปปิ้ง ดูคอนเสิร์ต ศัลยกรรม หรือไปเยี่ยมครอบครัว การขอวีซ่าเกาหลีก็ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับหลายคน และถึงแม้เกาหลีจะไม่ได้เข้มงวดเท่าบางประเทศ แต่ “เอกสารไม่ครบ”, “ข้อมูลไม่สอดคล้อง”, “เงินในบัญชีไม่นิ่ง”, หรือ “วัตถุประสงค์ไม่ชัดเจน” ก็ยังเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้วีซ่าถูกปฏิเสธอยู่เสมอ เพื่อให้คุณมีโอกาสผ่านสูงที่สุด บทความนี้จะแชร์ เคล็ดลับขอวีซ่าเกาหลีให้ผ่านง่ายขึ้น พร้อมแนะนำบริการรับทำวีซ่าแบบมืออาชีพจาก Co Journey Visa ที่ช่วยลดความกังวลของคุณได้ 100%   เคล็ดลับเพิ่มโอกาสวีซ่าเกาหลี “ผ่านง่ายขึ้น” 1️⃣ เตรียม Bank Statement ให้ชัดเจนและสม่ำเสมอ เกาหลีให้ความสำคัญกับการเคลื่อนไหวบัญชีอย่างมาก เลี่ยงการฝากเงินก้อนใหญ่ก่อนยื่น แนะนำให้มีเงินหมุนเวียนจริง ยอดคงเหลือควรสมเหตุสมผลกับแผนการเดินทาง 2️⃣ เอกสารต้องครบถ้วนและถูกต้อง สิ่งที่แนะนำให้ตรวจสอบก่อนยื่น เช่น ใบรับรองงาน / หนังสือรับรองการทำงาน เอกสารการจองที่พัก–ตั๋วเครื่องบิน Statement ราย 3–6 เดือน สำเนาทะเบียนบ้าน / สูติบัตร (ในกรณีไปกับครอบครัว) 3️⃣

วีซ่าไม่ผ่านเพราะข้อมูลไม่ครบ? เรามีทีมช่วยตรวจสอบ หนึ่งในสาเหตุอันดับต้น ๆ ที่ทำให้ผู้ยื่นขอวีซ่า “ไม่ผ่าน” คือ ข้อมูลไม่ครบ เอกสารไม่ตรงตามเงื่อนไข หรือการจัดเรียงไฟล์ไม่เป็นระบบ ซึ่งหลายครั้งผู้ยื่นอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสถานทูตต้องการข้อมูลในรูปแบบไหน หรือมีจุดใดที่ควรอธิบายให้ชัดเจนมากขึ้น นี่คือเหตุผลที่ทีมงาน Co Journey Visa เข้ามาช่วยคุณได้อย่างตรงจุด เพราะเราเข้าใจมาตรฐานของแต่ละสถานทูต รู้ว่าข้อมูลส่วนไหนจำเป็น ส่วนไหนควรเสริม และส่วนไหนควรปรับให้สอดคล้องกับเงื่อนไขการพิจารณา ปัญหาที่พบบ่อยเมื่อยื่นวีซ่าเอง เอกสารไม่ครบหรือขาดบางชิ้นโดยไม่รู้ตัว   เอกสารมีข้อมูลไม่สอดคล้องกัน เช่น รายรับไม่ตรงตาม Statement, วันลาไม่ตรงกับเอกสารบริษัท   ไม่ได้แนบคำอธิบายประกอบในกรณีที่ข้อมูลมีความซับซ้อน   จัดเรียงไฟล์ไม่ถูกลำดับ ทำให้เจ้าหน้าที่ตีความผิด   ตอบคำถามไม่ชัดเจน หรือเอกสารดูไม่น่าเชื่อถือ   ปัญหาเหล่านี้แม้เป็นเรื่องเล็ก แต่สามารถทำให้วีซ่า ถูกปฏิเสธได้ทันที เรามีทีมช่วยตรวจสอบก่อนยื่นจริง ที่ Co Journey Visa เราให้บริการตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียด เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าไฟล์ข้อมูลมีความครบถ้วน ถูกต้อง และพร้อมยื่นที่สุด โดยเราจะตรวจในทุกจุดที่สถานทูตให้ความสำคัญ เช่น ความสอดคล้องของข้อมูลส่วนตัว   รายได้/ฐานะทางการเงิน