เคสยากๆ ที่เราช่วยแก้ไขให้วีซ่าผ่านจริง

เคสยากๆ ที่เราช่วยแก้ไขให้วีซ่าผ่านจริง

เคสยากๆ ที่เราช่วยแก้ไขให้วีซ่าผ่านจริง: ประสบการณ์ที่พิสูจน์ได้

ในโลกของการขอวีซ่า “เอกสารไม่ครบ” หรือ “เคสยาก” ไม่ได้หมายความว่า หมดสิทธิ์ได้วีซ่า — แต่ขึ้นอยู่กับ “การเตรียมตัว” และ “ผู้เชี่ยวชาญที่ช่วยดูแล” ว่าจะสามารถพลิกสถานการณ์ได้มากแค่ไหน

ที่ Co Journey Visa เราได้ดูแลลูกค้ามาหลายพันเคส และพบว่า หลายคนถูกปฏิเสธมาก่อนจากการทำเองหรือใช้เอเจนซี่ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ แต่หลังจากเข้ามาปรึกษาและให้เราช่วยจัดเตรียมเอกสารอย่างถูกต้อง — วีซ่าผ่านภายในครั้งเดียว!

วันนี้เราขอแบ่งปัน ตัวอย่าง “เคสยาก” ที่เราเคยช่วยให้ผ่านจริง เพื่อให้เห็นว่า “ความเชี่ยวชาญ” สำคัญแค่ไหนในการขอวีซ่าในปี 2025 ที่กฎเข้มงวดกว่าเดิม

 

🇯🇵 เคสที่ 1: วีซ่าญี่ปุ่นถูกปฏิเสธเพราะยอดเงินในบัญชีไม่สม่ำเสมอ

ลูกค้ารายหนึ่งถูกปฏิเสธจากสถานทูตญี่ปุ่น เนื่องจากยอดเงินในบัญชีไม่คงที่ และไม่มีเอกสารประกอบอาชีพชัดเจน
หลังจากมาปรึกษา Co Journey Visa ทีมงานของเราได้ช่วย

  • จัดเตรียม “จดหมายอธิบายสถานะทางการเงิน” อย่างเป็นทางการ

  • แนบเอกสารยืนยันรายได้และความสัมพันธ์ในประเทศไทย

  • ช่วยเขียน Cover Letter ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การเดินทาง

สุดท้าย… วีซ่าผ่านภายใน 5 วันทำการ

 

🇨🇦 เคสที่ 2: วีซ่านักเรียนแคนาดา ถูกปฏิเสธเพราะขาด Motivation Letter

ผู้สมัครต้องการเรียนภาษาที่แคนาดา แต่ถูกปฏิเสธเพราะ “จดหมายอธิบายเหตุผลในการเรียน” (Motivation Letter) เขียนไม่ชัดเจน
ทีม Co Journey Visa จึงช่วย

  • เขียนจดหมายใหม่โดยเน้นเหตุผลทางการศึกษาและอาชีพ

  • ปรับแผนการเรียนให้เหมาะสมกับประวัติของผู้สมัคร

  • ตรวจเอกสารการเงินและหลักฐาน Sponsor ให้ครบถ้วน

ผลคือ… วีซ่าผ่านในรอบถัดไปแบบราบรื่น 🎓

 

🇬🇧 เคสที่ 3: วีซ่าท่องเที่ยวอังกฤษเคยโดนปฏิเสธมาแล้ว

เคสนี้เป็นเคสยากเพราะเคยถูกปฏิเสธมาแล้ว 1 ครั้ง โดยสาเหตุจาก “ข้อมูลในฟอร์มไม่ตรงกับเอกสาร”
ทีม Co Journey Visa เข้าไปช่วยตรวจเช็กทุกจุด

  • แก้ไขข้อมูลให้ตรงกันทุกฟอร์ม

  • เขียนจดหมายชี้แจงเหตุผลการปฏิเสธครั้งก่อนอย่างมีเหตุผล

  • จัดลำดับไฟล์อัปโหลดใหม่ตามมาตรฐาน Home Office UK

ผลลัพธ์คือ วีซ่าผ่านและลูกค้าได้เดินทางไปตามแผนที่วางไว้! 🇬🇧

 

🇺🇸 เคสที่ 4: วีซ่าสหรัฐอเมริกา (B1/B2) เคยสัมภาษณ์แล้วไม่ผ่าน

ลูกค้าหลายคนคิดว่า “ถ้าสัมภาษณ์ไม่ผ่านแล้วจะหมดสิทธิ์” ซึ่งไม่จริงเลย
ทีมงานของเราได้ช่วย

  • วิเคราะห์จุดอ่อนของการตอบคำถามเดิม

  • แนะนำวิธีตอบให้กระชับ ชัดเจน และน่าเชื่อถือ

  • เตรียมเอกสารประกอบที่แสดงถึงความผูกพันกับประเทศไทย

ผลคือ รอบที่ 2 ผ่านฉลุย! 🎉

 

สรุป: เคสยากไม่ใช่ปัญหา ถ้ามีผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจระบบ

การขอวีซ่าในปี 2025 มีความซับซ้อนมากกว่าเดิม เพราะสถานทูตหลายประเทศใช้ระบบ AI ตรวจสอบเอกสาร และเปลี่ยนเกณฑ์พิจารณาอยู่เสมอ
ดังนั้น “ประสบการณ์และความเข้าใจในรายละเอียด” คือสิ่งสำคัญที่สุด

และนี่คือสิ่งที่ Co Journey Visa ทำได้ดีที่สุด —
เราไม่ได้แค่ยื่นเอกสาร แต่ช่วย วางกลยุทธ์การยื่น เพื่อให้ไฟล์ของคุณ “ดูดีที่สุดในสายตาสถานทูต”

 

 

ให้ Co Journey Visa ดูแลคุณ — วีซ่าเคสยากก็ผ่านได้

เรามีทีมงานมืออาชีพที่ผ่านเคสจริงมามากมาย ทั้ง วีซ่าท่องเที่ยว, วีซ่านักเรียน, วีซ่าทำงาน, วีซ่าครอบครัว และวีซ่าธุรกิจ
ไม่ว่าคุณจะเคยถูกปฏิเสธมาก่อน หรือเริ่มยื่นครั้งแรก เราพร้อมช่วยให้ทุกขั้นตอนของคุณง่ายขึ้น

 

4 เหตุผลที่ควรเลือก Co Journey Visa

เชี่ยวชาญเคสยาก เคสตก เคสโดนรีเจ็กต์มาก่อน
มีประสบการณ์แก้ไขและยื่นให้ผ่านจริงทุกประเภท

ให้คำแนะนำเฉพาะบุคคล ไม่ใช้เทมเพลตสำเร็จรูป
เราปรับแผนการยื่นให้ตรงกับประวัติและจุดแข็งของผู้สมัครแต่ละคน

ทีมมืออาชีพดูแลครบทุกขั้นตอน
ตั้งแต่การวางแผน เตรียมเอกสาร จนถึงยื่นและติดตามผลให้ถึงที่สุด

โปร่งใส มั่นใจได้ทุกขั้นตอน
ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง และสามารถตรวจสอบสถานะได้ตลอดเวลา

 

สรุปสุดท้าย: วีซ่าผ่านได้ ไม่ต้องเสี่ยงลองผิดลองถูก

หากคุณกำลังรู้สึกหมดหวังหลังโดนรีเจ็กต์ หรือไม่แน่ใจว่าเอกสารของคุณพร้อมหรือไม่
อย่าเสี่ยงยื่นซ้ำโดยไม่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพราะ “ทุกครั้งที่ยื่นใหม่” สถานทูตจะเห็นประวัติเดิมทั้งหมด

ให้ Co Journey Visa ดูแลคุณ ตั้งแต่ต้นจนถึงวันที่ได้วีซ่าในมืออย่างมั่นใจ

เพราะ “ทุกเคสที่เราดูแล” คือภารกิจที่เราทำด้วยความใส่ใจและมืออาชีพ

📞 โทร: 080-8412543 / 061-0312188
📱 LINE: @cojourneyvisa              
📧 Email: cojourneyvisa@gmail.com
🌐 เว็บไซต์: www.cojourneyvisa.com

 



Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *