วีซ่านักเรียนอเมริกา F1: วิธีสมัคร และเอกสารที่ต้องเตรียม (อัปเดตปี 2025)
หากคุณกำลังวางแผนไปเรียนต่อประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นระดับมัธยม ปริญญา หรือเรียนภาษา วีซ่าที่จำเป็นต้องยื่นคือ วีซ่านักเรียนประเภท F1 (F1 Student Visa) ซึ่งเป็นวีซ่าหลักสำหรับนักเรียนต่างชาติที่ต้องการศึกษาในสถาบันที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลสหรัฐฯ
ในบทความนี้ Co Journey Visa จะอธิบายขั้นตอนการสมัคร วิธีการเตรียมเอกสาร และรายละเอียดสำคัญที่ควรรู้ก่อนยื่น เพื่อช่วยให้คุณเตรียมตัวได้ครบและมั่นใจว่าวีซ่าผ่านแน่นอนในปี 2025
1. วีซ่านักเรียนอเมริกา F1 คืออะไร?
วีซ่า F1 (Student Visa) เป็นวีซ่าสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนแบบเต็มเวลาในสหรัฐอเมริกา โดยสถาบันการศึกษาที่รับนักเรียนต่างชาติจะต้องได้รับการรับรองจาก SEVP (Student and Exchange Visitor Program)
นักเรียนที่ถือวีซ่า F1 สามารถเรียนใน
- มหาวิทยาลัย / วิทยาลัย (University / College)
- โรงเรียนมัธยม (High School)
- โรงเรียนภาษา (Language School)
- สถาบันฝึกอบรมเฉพาะทาง
นอกจากนี้ ผู้ถือวีซ่า F1 ยังสามารถทำงานภายในมหาวิทยาลัยได้ไม่เกิน 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และสามารถขอฝึกงาน (OPT) หลังเรียนจบได้ด้วย
2. เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับขอวีซ่า F1 (อัปเดตปี 2025)
ผู้สมัครวีซ่านักเรียน F1 ควรเตรียมเอกสารให้ครบตามรายการต่อไปนี้
- พาสปอร์ตตัวจริง (มีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือนหลังวันที่จะเดินทาง)
- แบบฟอร์ม I-20 จากสถาบันที่สมัครเรียน (ออกโดยโรงเรียนที่ได้รับการรับรองจาก SEVIS)
- แบบฟอร์ม DS-160 (แบบฟอร์มออนไลน์สำหรับขอวีซ่า)
- ใบเสร็จชำระค่าธรรมเนียม SEVIS (I-901 Fee)
- ใบเสร็จค่าธรรมเนียมวีซ่า (Visa Application Fee)
- หลักฐานทางการเงิน (Bank Statement / หนังสือรับรองการเงิน)
- ต้องแสดงยอดเงินเพียงพอสำหรับค่าเล่าเรียน + ค่าครองชีพตลอดระยะเวลาที่เรียน
- ต้องแสดงยอดเงินเพียงพอสำหรับค่าเล่าเรียน + ค่าครองชีพตลอดระยะเวลาที่เรียน
- จดหมายตอบรับจากสถาบัน (Letter of Acceptance)
- หลักฐานการศึกษาก่อนหน้า (Transcript, ใบปริญญา, หรือใบแสดงผล)
- ผลสอบภาษาอังกฤษ (TOEFL / IELTS) หากสถาบันร้องขอ
- รูปถ่ายหน้าตรงตามมาตรฐานสถานทูตสหรัฐฯ (2×2 นิ้ว)
3. ขั้นตอนการสมัครวีซ่านักเรียนอเมริกา F1
ขั้นตอนที่ 1: ได้รับเอกสาร I-20 จากสถาบันที่สมัครเรียน
หลังจากได้รับการตอบรับเข้าเรียนแล้ว สถาบันจะออกเอกสาร I-20 Form ซึ่งเป็นเอกสารหลักในการยื่นวีซ่า
ขั้นตอนที่ 2: ชำระค่าธรรมเนียม SEVIS (I-901 Fee)
สามารถชำระออนไลน์ได้ที่ www.fmjfee.com โดยเก็บใบเสร็จไว้ใช้ตอนสัมภาษณ์
ขั้นตอนที่ 3: กรอกแบบฟอร์ม DS-160 ออนไลน์
กรอกข้อมูลส่วนตัว รายละเอียดการศึกษา และอัปโหลดรูปถ่ายผ่านเว็บไซต์ ceac.state.gov
ขั้นตอนที่ 4: ชำระค่าธรรมเนียมวีซ่า (Visa Fee)
ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 185 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6,800 บาท)
ขั้นตอนที่ 5: จองคิวนัดสัมภาษณ์วีซ่า
ผ่านเว็บไซต์ของสถานทูตสหรัฐฯ ที่กรุงเทพฯ หรือเชียงใหม่
ขั้นตอนที่ 6: สัมภาษณ์วีซ่า
เตรียมเอกสารให้ครบ และตอบคำถามอย่างมั่นใจ เช่น
- ทำไมเลือกเรียนที่สหรัฐฯ
- แผนการเรียนจบแล้วจะทำอะไร
- ใครเป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่าย
ขั้นตอนที่ 7: รอผลและรับพาสปอร์ตคืน
หากผ่านการพิจารณา วีซ่าจะติดในพาสปอร์ตและส่งคืนภายใน 3–7 วันทำการ
4. ค่าธรรมเนียมหลักในการขอวีซ่า F1
รายการ | ค่าธรรมเนียมโดยประมาณ |
ค่าธรรมเนียมวีซ่า (DS-160) | 185 USD |
ค่าธรรมเนียม SEVIS (I-901) | 350 USD |
ค่าถ่ายเอกสาร / แปลเอกสาร / ดำเนินการเพิ่มเติม | แล้วแต่กรณี |
ระยะเวลาพิจารณา
หลังจากสัมภาษณ์แล้ว โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 3–10 วันทำการ หากไม่มีการขอเอกสารเพิ่มเติม
เคล็ดลับยื่นผ่านง่าย
- เตรียมเอกสารให้ครบตามรายการ และเรียงลำดับชัดเจน
- ตอบคำถามในการสัมภาษณ์อย่างมั่นใจและตรงไปตรงมา
- ตรวจสอบความถูกต้องของแบบฟอร์ม DS-160 ก่อนส่ง
- หากไม่แน่ใจเรื่องการกรอกหรือการเตรียมเอกสาร ควรให้ผู้เชี่ยวชาญด้านวีซ่าช่วยดูแลเพื่อป้องกันข้อผิดพลาด
ให้ Co Journey Visa ดูแลคุณเรื่องวีซ่าทุกประเทศ อย่างมืออาชีพ
ไม่ว่าจะเป็น วีซ่านักเรียนอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย แคนาดา ญี่ปุ่น หรือประเทศอื่น ๆ
ทีมงานของเรามีความเชี่ยวชาญด้านเอกสารและขั้นตอนการยื่นอย่างครบวงจร
พร้อมดูแลตั้งแต่การเตรียมเอกสารจนถึงการนัดสัมภาษณ์ เพื่อให้คุณมั่นใจว่าวีซ่าผ่านแน่นอน
✅ ตรวจเอกสารละเอียดก่อนยื่นจริง
✅ ให้คำปรึกษาเฉพาะบุคคลตามประเภทวีซ่า
✅ ทีมงานมืออาชีพ ดูแลทุกขั้นตอนด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี
✅ ยื่นผ่านจริงมานับพันเคส พร้อมรีวิวลูกค้าจริงมากมาย
📞 โทร: 080-8412543 / 061-0312188
📱 LINE: @cojourneyvisa
📧 Email: cojourneyvisa@gmail.com
🌐 เว็บไซต์: www.cojourneyvisa.com