ทำไมวีซ่าแคนาดาถึงถูกปฏิเสธ? และวิธีที่เราช่วยแก้ไขได้

ทำไมวีซ่าแคนาดาถึงถูกปฏิเสธ? และวิธีที่เราช่วยแก้ไขได้

“วีซ่าแคนาดาไม่ผ่าน” เป็นหนึ่งในปัญหาที่หลายคนเจอบ่อยมาก โดยเฉพาะผู้ที่ยื่นด้วยตนเองเป็นครั้งแรก เพราะระบบตรวจสอบของแคนาดานั้นมีความละเอียดสูงและเข้มงวดมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก

แต่ข่าวดีคือ… การถูกปฏิเสธวีซ่าไม่ใช่จุดจบของความฝัน
หากเข้าใจสาเหตุที่แท้จริงและเตรียมเอกสารอย่างถูกต้อง คุณสามารถ “ยื่นใหม่ให้ผ่านได้” — และนี่คือสิ่งที่ Co Journey Visa เชี่ยวชาญที่สุด

❌ สาเหตุหลักที่ “วีซ่าแคนาดาถูกปฏิเสธ” ในปี 2025

การถูกปฏิเสธวีซ่าไม่ใช่เพราะโชคร้าย แต่เพราะไฟล์ของคุณ “ไม่ตอบโจทย์ที่สถานทูตต้องการ”
มาดูกันว่ามีเหตุผลอะไรที่พบบ่อยที่สุดในปี 2025 👇

1. เอกสารไม่ครบ หรือข้อมูลไม่สอดคล้องกัน

สถานทูตแคนาดาให้ความสำคัญกับ “ความน่าเชื่อถือของเอกสาร” เป็นอันดับต้น ๆ
หากเอกสารไม่ตรงกัน เช่น รายได้ในสลิปเงินเดือนไม่ตรงกับยอดใน Bank Statement หรือจดหมายรับรองงานขาดรายละเอียดสำคัญ ก็มีโอกาสถูกปฏิเสธสูง

2. เงินในบัญชีไม่เพียงพอ / ไม่มีที่มาของรายได้ชัดเจน

แม้จะมียอดเงินเยอะ แต่ถ้าไม่สามารถอธิบายที่มาของเงินได้ หรือมีการฝากเงินก้อนใหญ่ก่อนยื่นไม่นาน — เจ้าหน้าที่จะมองว่า “ไม่มีความมั่นคงทางการเงิน” ซึ่งเป็นเหตุผลยอดฮิตที่ทำให้วีซ่าท่องเที่ยวและนักเรียนถูกปฏิเสธ

3. จุดประสงค์การเดินทางไม่ชัดเจน

เจ้าหน้าที่ต้องการเห็นความเชื่อมโยงระหว่างเหตุผลการเดินทางกับสถานะของผู้สมัคร เช่น

• ยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยว แต่ไม่มีแผนท่องเที่ยวชัดเจน
  
  
• บอกว่าจะไปเรียนระยะสั้น แต่ไม่มีเอกสารยืนยันสถาบันการศึกษาแนบมาด้วย
  

4. ไม่มีหลักฐานกลับประเทศไทย (Proof of Ties)

หนึ่งในเหตุผลที่คนไทยถูกปฏิเสธบ่อยคือ “สถานทูตกลัวว่าจะไม่กลับประเทศ”
หากไม่มีหลักฐานชัดเจน เช่น ทรัพย์สินในประเทศ งานประจำ หรือครอบครัวที่ต้องกลับมา — ก็จะถูกมองว่ามีความเสี่ยงสูง

5. กรอกแบบฟอร์มผิด หรือให้ข้อมูลไม่ตรงกัน

แม้เป็นเรื่องเล็ก แต่การกรอกฟอร์มผิดเพียงจุดเดียว (เช่น วันเกิด ที่อยู่ หรือประวัติการเดินทาง) ก็สามารถทำให้วีซ่าถูกปฏิเสธได้เช่นกัน

แล้วจะแก้ไขอย่างไรถ้าวีซ่าแคนาดาไม่ผ่าน?

อย่าเพิ่งยื่นใหม่ทันที! เพราะระบบของสถานทูตแคนาดา (IRCC) จะเก็บข้อมูลผู้สมัครทุกรายไว้ในฐานข้อมูล
หากคุณยื่นใหม่โดยไม่แก้จุดที่ผิดพลาด — โอกาสถูกปฏิเสธซ้ำจะยิ่งสูงขึ้น

สิ่งที่ควรทำคือ วิเคราะห์ “Refusal Letter” หรือจดหมายแจ้งปฏิเสธอย่างละเอียด
ซึ่งในจดหมายจะระบุเหตุผลที่แท้จริงไว้ (แม้จะสั้นหรือดูทั่วไปก็ตาม)
จากนั้นจึงปรับเอกสารให้ตอบโจทย์สิ่งที่เจ้าหน้าที่ต้องการเห็น

และนี่คือสิ่งที่ Co Journey Visa ทำให้ลูกค้าหลายร้อยคน “ผ่านจริง” หลังจากเคยโดนปฏิเสธมาก่อน

เราช่วยคุณแก้ไขได้อย่างไร

ทีมผู้เชี่ยวชาญของ Co Journey Visa มีประสบการณ์ตรงในการดูแล “เคสยาก” ของแคนาดามาแล้วมากมาย ทั้งวีซ่าท่องเที่ยว นักเรียน และเยี่ยมญาติ โดยเราจะช่วยคุณในทุกขั้นตอน เช่น

1. 🔍 วิเคราะห์จุดผิดพลาดจากไฟล์เดิมอย่างละเอียด
   ดูว่าปัญหาอยู่ที่เอกสาร ข้อมูล หรือการสื่อสารในไฟล์
   
   
2. 🧾 วางแผนเอกสารใหม่ให้ตรงกับเงื่อนไขของสถานทูต
   ปรับรูปแบบจดหมาย, Cover Letter, และหลักฐานทางการเงินให้ถูกต้องและน่าเชื่อถือ
   
   
3. 💬 เขียนจดหมายชี้แจง (Explanation Letter)
   ช่วยอธิบายเหตุผลในการยื่นใหม่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าใจเจตนาที่แท้จริงของผู้สมัคร
   
   
4. ✅ ดูแลขั้นตอนการยื่นทั้งหมดให้ถูกต้องและราบรื่น
   ตั้งแต่การกรอกฟอร์มในระบบ IRCC, อัปโหลดไฟล์, นัดไบโอเมตริกซ์ ไปจนถึงติดตามผลให้ครบทุกขั้นตอน
   
   

ทำไมต้องเลือก Co Journey Visa ดูแลเคสของคุณ

✅ เชี่ยวชาญเคสวีซ่าแคนาดาทุกประเภท
เรารู้แน่ชัดว่าสถานทูตให้ความสำคัญกับข้อมูลส่วนใด และจะปรับไฟล์ให้ตรงจุด

✅ แก้ไขเคสที่เคยถูกปฏิเสธให้ผ่านได้จริง
ทีมของเรามีประสบการณ์ตรงกับลูกค้าหลายเคสที่ถูกปฏิเสธจาก IRCC แล้วผ่านในรอบถัดไป

✅ ให้คำปรึกษาเชิงลึกพร้อมวิเคราะห์รายบุคคล
เราไม่ใช้วิธี “สำเนาไฟล์เดิม” แต่ดูทุกเคสตามสถานะและจุดประสงค์ของคุณ

✅ บริการครบวงจร ตั้งแต่ยื่นเอกสารจนถึงผลอนุมัติ
คุณไม่ต้องกังวลเรื่องระบบออนไลน์ของแคนาดาที่ซับซ้อน เพราะเราดูแลให้ทั้งหมด

สรุป: วีซ่าแคนาดาไม่ผ่าน แก้ไขได้ ถ้ามีผู้เชี่ยวชาญดูแล

การถูกปฏิเสธวีซ่าไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่คือโอกาสในการ “ปรับปรุงไฟล์ให้ดียิ่งขึ้น”
เพียงมีผู้เชี่ยวชาญคอยช่วยวิเคราะห์เอกสารอย่างถูกต้อง
คุณก็สามารถ “กลับมายื่นใหม่ให้ผ่าน” ได้แน่นอน

ให้ Co Journey Visa เป็นผู้ช่วยมืออาชีพของคุณ
เพราะเราไม่เพียงแค่ “ยื่นให้” แต่เราจะ “ดูแลให้ผ่าน”

📞 โทร: 080-8412543 / 061-0312188
📱 LINE: @cojourneyvisa              
📧 Email: cojourneyvisa@gmail.com
🌐 เว็บไซต์: www.cojourneyvisa.com